ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ยอดนักบิดเฟรนช์จาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที เผยสิ่งสำคัญที่ต้องทำใน โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ คือ “แก้ไขจุดบกพร่องของตนเอง” มากกว่า “การปรับปรุงรถแข่ง” หลังเจอความยากลำบากหลายเรซติดต่อกัน

กวาร์ตาราโร ฝันสลายจากการลุ้นแชมป์โลก โมโตจีพี สมัยแรกของตนเอง โดยชัยชนะครั้งล่าสุดของเขามีขึ้นที่ คาตาลัน กรังด์ปรีซ์ เมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากนั้นฟอร์มก็รูดลงเรื่อยๆ ก่อนจะทิ้งโอกาสลุ้นแชมป์ด้วยการล้มในรอบแรกของ ยูโรเปี้ยน กรังด์ปรีซ์ ที่ บาเลนเซีย

ก็เหมือนนักบิดคนอื่นๆ ของ ยามาฮ่า ที่เจอปัญหาอย่างหนักกับรถแข่งในปี 2020 ทว่าส่วนตัวเขาเองกลับไม่ได้โฟกัสในจุดนั้น กับการแข่งขันที่ อัลการ์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ครั้งแรก โดยเชื่อว่าเรซที่โปรตุเกสจะช่วยให้เขาปรับปรุง “จุดด้อย” ของตนเอง มากกว่าที่จะไปเน้นกับการมองหาแนวทางปรับปรุง M1 เพื่อปี 2021

“มันไม่เกี่ยวกับพื้นฐานการเซ็ตอัพ เพราะทุกๆ เรซเรามีความเร็วอยู่แล้ว ซึ่งมันก็แตกต่างกันไปไม่มากก็น้อย” กวาร์ตาราโร กล่าวหลังถูกถามว่า เขามองว่าสนามนี้เป็นส่วนหนึ่งในการทดสอบหรือไม่?

“ดังนั้น ผมคิดว่าเรามีความเร็วอยู่แล้ว แต่ผมแค่ต้องปรับปรุงทุกสิ่งที่มีอยู่แล้วซึ่งเป็นจุดอ่อนจากตัวตนของผมเอง”

“ผมต้องพยายามอย่างหนักบนแทร็ก และบอกกับตัวเองว่า ‘โอเค นั่นคือจุดอ่อนของนายนะ นั่นคือสิ่งที่นายทำผิดพลาดมาตั้งแต่ต้นฤดูกาล’ ดังนั้น การแข่งขันในเรซนี้ ผมต้องการเปลี่ยนทุกสิ่ง และพยายามทำงานในแนวทางที่ดีจริงๆ เพื่อดูว่ามันจะรู้สึกอย่างไร”

“และตอนนี้ผมคิดทบทวนเกี่ยวกับตัวผมมากกว่ารถแข่ง แต่เพื่อความแน่นอนเราก็จะพยายามทดสอบหลายๆ อย่างด้วยเช่นกัน ซึ่งเราจะพยายามทดสอบเพื่อการแข่งขันในสุดสัปดาห์นี้ เพื่อวันพรุ่งนี้ ซึ่งมันสำคัญกว่าการทำงานเพื่ออนาคต”

สำหรับ กวาร์ตาราโร ทำเวลาในการซ้อมมาเป็นอันดับ 4 ของวันแรกจากการรวม FP1-FP2 ตามหลัง โยฮันน์ ซาร์โก นักบิดเฟรนช์จาก อวินเทีย เรซซิ่ง อยู่ 0.275 วินาที โดยในวันเสาร์นี้จะเป็นการจับเวลารอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ทของ โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์