โจอัน เมียร์ แชมป์โลกโมโตจีพีคนปัจจุบันจาก ทีม ซูซูกิ เอ็คสตาร์ เผยว่าเขา “ถูกสถานการณ์บังคับ” ให้แซงเข้าใส่ มาร์ค มาร์เกซ อย่างหนักหน่วงในรอบแรกของ โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ เพราะจุดที่เขาออกตัวคือกริดที่ 9

เมียร์ ออกสตาร์ทจากกริดที่ 9 ซึ่งอยู่ตำแหน่งหลัง มาร์ค มาร์เกซ แถวเดียว (กริดที่ 6) ก่อนที่แชมป์โลกคนปัจจุบันจะแซงเข้าใส่ มาร์เกซ แบบดุดันในโค้ง 11 ที่ เป็นโค้งขวาในรอบแรก ทำให้เขาขยับขึ้นมารั้งอันดับ 3

จากนั้นในรอบต่อมา ทั้งคู่ก็ต้องปะทะกันอีกครั้งที่โค้ง 3 เมื่อ มาร์เกซ สะกิดเข้าที่ล้อหลังของ เมียร์ แต่ทั้งคู่ยังสามารถลุยต่อในเรซได้

ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นให้หลังเพียง 1 วัน หลังจากที่ เมียร์ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ไม่แฮปปี้” กับแท็คติกของ มาร์เกซ ที่ “อันตรายเกินไป” ในการจับเวลาในรอบ Q1 ในวันเสาร์ ซึ่งเขาชี้ว่ามันทำลายโอกาสในการกดเวลาของเขาอย่างมาก

เมียร์ ที่จบการแข่งขันในอันดับ 3 ยืนยันว่า คุณจำเป็นต้อง “ก้าวร้าว” หากออกสตาร์ทจากด้านหลัง ถ้าต้องการที่จะต่อสู้เพื่อการลุ้นแชมป์โลก

“ในรอบแรกมันคือโมเมนต์คล้ายๆ กับการควอลิฟายที่โค้ง 11”

“ผมต้องการแซงเขา และเป็นจังหวะที่เขาปิดไลน์ แต่เขาปิดไลน์กลับมาช้าเกินไปสำหรับผม แน่นอนว่ามันทำให้เราสัมผัสกัน”

“แต่ในรอบต่อมาผมก็รู้สึกได้ว่าโดนชนที่ล้อหลัง และผมไม่รู้ว่าเป็นใคร ดังนั้น ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคือ มาร์ค”

“การได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 9 หมายความว่าคุณจำเป็นต้องแซง หากไม่สามารถทำเวลาที่ดีได้ในรอบควอลิฟาย ผมต้องเริ่มเกมแบบนี้”

“มันก็ต้องเป็นแบบนี้อยู่แล้ว หากเราต้องการจะสู้เพื่อลุ้นแชมป์โลก และเราไม่ได้ออกสตาร์ทจากแถวหน้า ผมจึงต้องดุดันและก้าวร้าว”

“แต่เอาจริงๆ ผมชอบที่จะได้ออกตัวจากแถวหน้ามากกว่า”

โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์ เป็นการขึ้นโพเดี้ยมครั้งแรกของ เมียร์ ในเส้นทางการป้องกันแชมป์โลกที่เต็มไปด้วย “แรงกดดัน” หลังจากที่คว้าได้เพียงอันดับ 4 และ 7 จากสองเรซที่ กาตาร์

โดยหลังผ่าน 3 สนาม เมียร์ รั้งอันดับ 6 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ ตามหลังจ่าฝูงอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ราราโร อยู่ 23 คะแนน