“เดอะด็อกเตอร์” วาเลนติโน รอสซี่ ดาวบิดอิตาเลียนวัย 42 ปี ยืนยันว่าเขาได้รับการสนับสนุนที่ดีอย่างมากจาก ปิโตรนาส เอสอาร์ที ท่ามกลางการออกสตาร์ทฤดูกาลที่ย่ำแย่ที่สุดในอาชีพการเป็นนักบิดกับ โมโตจีพี 2021

แชมป์โลก 9 สมัย เก็บมาได้เพียง 4 แต้มจากการแข่งขัน 4 สนามแรก ของศึก โมโตจีพี ฤดูกาล 2021 โดยผลงานดีที่สุดคือการคว้าอันดับ 12 ใน กาตาร์ กรังด์ปรีซ์ แม้จะทำเวลาในรอบควอลิฟายได้ยอดเยี่ยมในกริดที่ 4 ซึ่งเป็นสนามแรกก็ตาม

รอสซี่ บันทึกการออกสตาร์ทที่แย่ที่สุดครั้งหนึ่งในอาชีพของเขา ด้วยการคว้ากริดที่ 21 ในรายการ โดฮา กรังด์ปรีซ์ และได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 17 ทั้งสองสนามที่ผ่านมา (ปอร์ติเมา, เฆเรซ) แถมยังเก็บแต้มจากทั้ง 3 สนามไม่ได้เลย

ขณะเดียวกัน รถแข่งโรงงานยามาฮ่าสเป็คเดียวกันที่บิดโดย มาเวริค บีญาเลส และ ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร กลับสามารถคว้าชัยชนะได้ 3 จาก 4 เรซแรกของปีนี้

ปัญหาของ รอสซี่ ที่เจอมาอย่างต่อเนื่องคือ “การยึดเกาะ” ของล้อหลังซึ่งเขาต้องทนทุกข์มาในช่วงหลายปีหลัง

ภายใต้เส้นตายการ “ตัดสินอนาคต” ว่าจะแข่งต่อหรือไม่นั้น เขากำหนดไว้ใน 2-3 เรซข้างหน้า โดย รอสซี่ ยอมรับว่าไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรกับ “ฟอร์มแย่” ในตอนนี้ ขณะเดียวกันก็เปิดเผยว่าต้นสังกัดอย่าง เอสอาร์ที ยังคงให้การสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่

“มันเป็นเรซที่ยาก (เฆเรซ) และถือเป็นสุดสัปดาห์ที่ยากมาก ภายใต้ช่วงเวลาที่ผมไม่สามารถหาจังหวะดีๆ ได้เลย” รอสซี่ กล่าวหลังจบ สแปนิช กรังด์ปรีซ์

“มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ทีมของเรา (เอสอาร์ที), ปิโตรนาส ก็ให้การสนับสนุนผมอย่างเต็มที่”

“ผมมีปัญหาหลายอย่างในการเซ็ตอัพ และผมไม่สามารถทำความเร็วได้ ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องหาทางออกในระดับของฝ่ายเทคนิค”

“เราต้องมองโลกในแง่ดี และต้องมีแรงใจอยู่เสมอ”

ทั้งนี้ รอสซี่ ใช้ช่วงเวลาในการทดสอบที่ เฆเรซ ร่วมกับทีมและ ยามาฮ่า เพื่อประเมิน “ไอเดีย” ใหม่ๆ ในการเซ็ตอัพ รวมถึงทดสอบชิ้นส่วนใหม่ที่ เฆเรซ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ก่อนจะทำเวลาเป็นอันดับ 12

โดย “เดอะด็อกเตอร์” ค่อนข้างพอใจกับความคืบหน้าดังกล่าว ซึ่งดูเหมือนว่าจะยังมีงานต้องทำกับการ “กอบกู้” เวลาที่เสียไปกับปัญหา “อัตราเร่ง” และ “ระบบเบรก”

“เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาเรซเพซ และฟีลลิ่งบนรถแข่ง เพราะเจอปัญหาอย่างหนักตลอดทั้งสุดสัปดาห์” รอสซี่ กล่าว

“ฟีลลิ่งไม่เลวเลยทีเดียว” รอสซี่ กล่าวหลังจบการทดสอบที่ เฆเรซ เมื่อวันจันทร์

“เราสิ้นสุดการทำงานของวันด้วยฟีลลิ่งที่ดี โดยเฉพาะความรู้สึกของผมที่ดีขึ้นเมื่ออยู่บนรถแข่ง และสามารถที่จะขับขี่ในทิศทางที่ดีขึ้นกว่าเดิม แน่นอนว่าผมปรับปรุงขีดการต่อสู้ได้เยอะมาก”

“เราทำงานกันได้ดีกับทีม โดยเน้นไปที่การเซ็ตติ้งเบรก”

“รวมถึง ยามาฮ่า ที่ป้อนชิ้นส่วนใหม่ที่ใช้งานได้ดี ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยให้พัฒนาขึ้นได้นิดหน่อย ทั้งในเรื่องฟีลลิ่งและความเร็ว”

“ผมไม่มีความรู้สึกอุ่นใจ มันไม่ค่อยสบายนักเมื่ออยู่บนรถแข่งกับสไตล์การบิดของผม (ไม่ค่อยถนัด) ซึ่งมันดูจะตอบสนองได้ไม่ทันทีทันใด และมันก็ทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับอัตราเร่ง เพราะบ่อยครั้งที่ผมขาดการยึดเกาะที่ล้อหลัง เลยไม่สามารถจะเร่งออกจากโค้งได้ดีพอ”

“ดังนั้น เราทำงานกันอย่างหนักกับการเซ็ตติ้ง โดยร่วมงานกับ ดาวิด (มุนยอช) รวมถึงการเซ็ตติ้งส่วนหน้า และการกระจายน้ำหนักในการเข้าโค้งให้เร็วขึ้น เพื่อให้เข้าโค้งได้ลึกขึ้นและมีสปีดในโค้งเร็วกว่าเดิม”

“นี่คือเป้าหมายและเราก็ปรับปรุงได้ดีขึ้น”

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇