พอล เดนนิ่ง บอส ยามาฮ่า เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ ออกโรงหนุนหลังลูกทีมอย่าง โทปรัค ราซกัตลิโอกลู นักบิดเติร์กว่ายังไม่สายที่จะขยับไปบิดในศึก โมโตจีพี ในอนาคต

ราซกัตลิโอกลู โยกจาก คาวาซากิ มาร่วมงานกับ ยามาฮ่า เมื่อปีที่ผ่านมา ก่อนจะสร้างผลงานยอดเยี่ยมจนขยับขึ้นมาเป็นหนึ่งใน “ตัวเต็ง” ลุ้นแชมป์โลก ในช่วงต้นฤดูกาล

นักบิดเติร์กสร้างผลงานอย่างโดดเด่น ขึ้นโพเดี้ยม 6 ครั้งติดต่อกัน ใน 2 สนามล่าสุดที่ เอสโตริล และ มิซาโน ก่อนจะคว้าชัยชนะครั้งแรกที่สนามดังกล่าว ทำให้เขามีคะแนนตามหลังจ่าฝูงอย่าง โจนาธาน เรีย เพียง 20 คะแนนเท่านั้น

ปีที่ผ่านมา คีนัน โซฟูโอกลู ผู้จัดการส่วนตัวของ ราซกัตลิโอกลู เปิดเผยว่านักบิดวัย 24 ปี ภายใต้การดูแลของเขากำลังได้รับความสนใจจากค่ายผู้ผลิตใน โมโตจีพี ซึ่งถือเป็นการบอกใบ้ว่าเขาอาจได้ขยับมาสู่เวที เวิลด์ กรังด์ปรีซ์ ในอนาคต

เดนนิ่ง ที่เคยทำงานให้กับ เครสเซนต์ เรซซิ่ง ซึ่งโยกมาร่วมงานกับ ยาฮ่า ใน เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ เชื่อว่าโอกาสยังคงเปิดกว้างสำหรับ ราซกัตลิโอกลู ที่จะก้าวจากเวลที เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ สู่ โมโตจีพี

“สำหรับผมมันไม่สำคัญนะ (เรื่องอายุ) นักบิดหนุ่มอย่าง โทปรัค ที่กำลังจะครับ 25 ปี สิ้นปีนี้ มันไม่สายสำหรับเขาที่จะโยกไปบิด โมโตจีพี”

“หากดูจากสภาพร่างกาย, จิตใจ, พรสวรรค์ และศักยภาพโดยรวมแล้วแน่นอนว่าเขาจะไปได้สวย แต่ถ้ามองจากอายุที่หลายคนบอกว่า เขาจะครบ 27 ปี ในอีกสองปี นั่นก็ไม่ได้สำคัญอะไรนัก”

“เรามีนักบิดหนุ่มหลายคน แต่พวกเขามีทั้งประสบการณ์และพรสวรรค์อย่างเช่น โจนาธาน (เรีย) หรือ แชซ (เดวีส์) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความดุดันและความเร็ว แน่นอนว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก หากจะไปยึดติดแค่อายุกับงานที่ทำ”

นอกจากนี้ เดนนิ่ง ยังเสริมว่า ราซกัตลิโอกลู กลายเป็นนักบิดที่มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะในปีที่ 2 ที่ลงบิดใน เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ จากมุมมองที่เขาทำงานอยู่เบื้องหลัง

“มีความแตกต่างที่แสดงออกมาในการทำงานของเขา รวมถึงความเป็นมืออาชีพหากเทียบกับปี 2020” เดนนิ่ง กล่าว

“เขาฝึกซ้อมและเตรียมตัวได้ดีกว่าเดิม ทำงานกับทีมแบบมืออาชีพเต็มตัว นี่เป็นสเต็ปที่ใหญ่มาก”

“พรสวรรค์ก็เส่วนหนึ่ง, แต่เขาทำหลายๆ สิ่งที่คล้ายคลึงกับ เรีย ซึ่งเป็นเบื้องหลังในการคว้าแชมป์โลก”

เดนนิ่ง กล่าวว่า “ยามาฮ่า จะไม่ขัดขวางเส้นทางของ ราซกัตลิโอกลู หากเขามีโอกาสย้ายไปบิดใน โมโตจีพี” นอกจากนี้ยังเชื่อว่า “รถแข่ง” ที่มีโอกาสชนะจะเป็นหนึ่งในแรงจูงใจของนักบิดเติร์ก

“เป็นที่รู้กันดีว่า โทปรัค มีแรงจูงใจสูงมากที่จะเป็นผู้ชนะ”

“ผมไม่สามารถพูดแทนเขา แต่ผมเชื่อว่าเขาคงอยากชนะใน โมโตจีพี เช่นกัน มากกว่าการได้ลงบิดใน โมโตจีพี แต่จบการแข่งขันในอันดับ 6”