ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร จ่าฝูงโมโตจีพีชาวฝรั่งเศส ยืดอกรับว่าการก้าวมาแทนที่ วาเลนติโน รอสซี่ ในทีมโรงงานยามาฮ่าถือเป็น “ความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่” เพราะต้องแบกความคาดหวังไว้อย่างสูง

หลังสร้างผลงานสุดร้อนแรงในปี 2019 ในฐานะรุกกี้พรีเมียร์คลาสกับ ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ด้วยการพารถแข่ง ยามาฮ่า M1 ‘B-Spec’ ขึ้นโพเดี้ยมมากถึง 7 ครั้ง ก่อนจะได้รับสัญญาจาก ยามาฮ่า ให้ขึ้นสู่ทีมโรงงานแทน รอสซี่ ในปี 2021 เพื่อร่วมงานกับ มาเวริค บีญาเลส

รอสซี่ เดินทางกับ ยามาฮ่า ยาวนานถึง 15 ฤดูกาล (2 ช่วง) และคว้าแชมป์โลกพรีเมียร์คลาสร่วมกัน 4 ครั้ง จากทั้งหมด 7 ครั้ง ที่ ยามาฮ่า ทำได้ ซึ่งนับเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ร่วมกัน

แม้ กวาร์ตาราโร จะยืนกรานก่อนหน้านี้ว่าเขา “ไม่สามารถแทนที่ รอสซี่ ได้” ทว่าด้วยการแข่งขันในตลาดนักบิดที่เข้มข้น ยามาฮ่า ไม่สามารถรอให้ “เดอะด็อกเตอร์” ตัดสินใจได้ เพราะ ดูคาติ ก็ต้องการได้ตัว กวาร์ตาราโร อย่างมาเช่นกัน นั่นคือสาเหตุหลักในการเซ็นสัญญาตั้งแต่ต้นฤดูกาล 2020

หลังจากที่เจอปัญหา “ความไม่สอดคล้อง” กันของรถแข่ง M1 ในปี 2020 กับ เอสอาร์ที, กวาร์ตาราโร ก็พลิกสถานการณ์กลับมาสร้างผลงานอย่างโดดเด่นในปี 2021 ด้วยการคว้าชัยชนะไปแล้ว 4 ครั้ง ในรายการ โดฮา กรังด์ปรีซ์, โปรตุกีส กรังด์ปรีซ์, อิตาเลียน กรังด์ปรีซ์ และ ดัตช์ ทีที พร้อมกับรั้งจ่าฝูงบนตารางแชมเปี้ยนชิพ ก่อนเข้าสู่ ซัมเมอร์ แบรก

จากการให้สัมภาษณ์แบบส่วนตัวกับ Motorsport.com กวาร์ตาราโร เขาไม่ได้รู้สึกถึง “ความกดดัน” ที่เพิ่มมากขึ้นนัก นับตั้งแต่ขยับขึ้นสู่ทีมโรงงานยามาฮ่า แต่ก็ยอมรับว่า “เป็นความรับผิดชอบ” ที่ใหญ่หลวงมากในการทำหน้าที่แทน รอสซี่

“ใช่ครับ, สำหรับผมเรื่องความกดดัน มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว” กวาร์ตาราโร เกริ่น

“ผมคิดว่าผมเจอแรงกดดันมาตลอดทั้งชีวิต และตอนนี้ผมคิดว่ามันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว”

“ดังนั้น ผมคิดว่าผมน่าจะชินกับมันแล้วนะ”

“แน่นอนเมื่อถึงจุดหนึ่งมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ (ความกัดดัน) โดยเฉพาะเมื่อต้องต่อสู้เพื่อลุ้นแชมป์โลกในเรซเดียว แต่เมื่อถึงจุดนั้น… ผมคิดว่าแรงกดดันมันจะยังเหมือนเดิมและกลายเป็นความเคยชิน”

“สำหรับผม… ความรับผิดชอบนี้ยิ่งใหญ่มาก เมื่อพูดถึงการเป็นตัวตายตัวแทนของ รอสซี่ ซึ่งดูเหมือนทุกๆ คนจะเฝ้ารอให้ผมสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยม และทุกๆ อย่างให้ทีม”

“แต่ผมอยู่ในจุดนั้น, ซึ่งผมคิดว่ากำลังทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม และคิดว่าทีมก็แฮปปี้เช่นกัน ไม่แค่ผมคนเดียว แต่มันหมายถึงทีมงานทั้งหมด บรรยากาศของทุกฝ่ายรวมถึงทีมช่างมันดีมากๆ”

“ดังนั้น ทุกคนในทีมต่างกำลังทำงานในทิศทางที่ชอบ และผมคิดว่าสิ่งนี้มีส่วนช่วยเราอย่างมาก”

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇