แดนี เปโดรซ่า ยอดนักบิดร่างเล็กชาวสแปนิชจาก เคทีเอ็ม ที่ลงบิดโมโตจีพี “ฟูลเรซ” ด้วยสิทธิ์ไวด์การ์ดในศึก สตีเรียน กรังด์ปรีซ์ สุดช็อกกับ “อุบัติเหตุ” ที่เกิดขึ้นกับตัวเองในโค้ง 3 ยอมรับโชคดีไม่โดนชนซ้ำ และโล่งอกที่ ลอเรนโซ ซาวาดอรี นักบิดอิตาเลียนจาก อพริเลีย ปลอดภัยหลังเลี่ยงรถกลางแทร็กไม่ได้

เปโดรซ่า พลาดล้มในโค้ง 3 ขณะเปิดคันเร่งออกจากโค้งในรอบที่ 3 ขณะที่ตัวเขาเองหลุดออกจากรถและติดอยู่บนแทร็ก ก่อนจะมีรถแข่ง 4-5 คันตามมาด้านหลัง ขณะที่ ซาวาดอรี บิดจากกลุ่มท้ายแต่ชนซ้ำเข้าที่รถแข่ง เคทีเอ็ม ของ เปโดรซ่า อย่างจัง

การชนดังกล่าวทำให้ไฟลุกไหม้รถแข่งทั้ง 2 คันทันที ขณะที่ เปโดรซ่า รอดพ้นจากการโดนชนซ้ำโดยรถคันอื่นได้อย่างเฉียดฉิว ส่วน ซาวาดอรี ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาเบื้องต้น และมีเพียงอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่ข้อเท้าขวา

ภายหลังกรรมการตีธงแดงและรีสตาร์ท เปโดรซ่า สามารถนำรถแข่งอีกคันออกมาแข่งขันต่อ และจบเรซในอันดับ 10 ได้สำเร็จ

“มันเป็นการออกสตาร์ทที่ยากกับเรซแรกที่ลงแข่ง (ในรอบ 2 ปีครึ่ง) ผมไม่รู้ว่าทำไมผมถึงล้มในจังหวะนั้น” เปโดรซ่า เผย

“อาจเป็นเพราะผมเหยียบเข้าส่วนพื้นแทร็กที่เย็นทางด้านขวา เพราะผมใช้ยางฮาร์ด”

“ผมทำได้แค่พยายามยกรถขึ้นในโค้งนั้น แต่รถแข่งมันก็มีอาการดื้อก่อนล้มลงมาแปะที่พื้นแทร็ก และผมถูกรถหมุนให้อยู่กลางแทร็ก”

“น่าเสียดายที่ ซาวาดอรี ชนเข้ากับรถแข่งของผมและเขาไม่บาดเจ็บหนัก ผมขอโทษเขาจริงๆ”

“แต่ผมก็โชคดีมาก (ที่ไม่โดนคนอื่นชนซ้ำ) ผมไม่คิดว่าจะเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนในอาชีพนักบิด แน่นอนว่าผมรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่เห็นรถแข่งทุกคันวิ่งผ่านไปทั้งซ้ายและขวา”

Photo : Motorsport.com

เหตุการณ์ล้มแบบไฮไซด์และเหวี่ยงให้นักบิดร่วงอยู่กล่างแทร็ก สร้างความสูญเสียให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ตมาแล้วหลายราย โดยแต่ละครั้งนับเป็นอุบัติที่เหตุที่รุนแรง ขณะที่ เอฟไอเอ็ม ยอมรับว่ายังไม่สามารถหาทางเลี่ยงอุบัติเหตุเช่นนี้ได้

โดยในปีนี้มีนักบิดดาวรุ่ง 2 คนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าว ได้แก่ เจสัน ดูปาสกิเยร์ นักบิดดาวรุ่งสวิสสวัย 19 ปี ที่ มูเจลโล และ ฮูโก้ มิยัน ดาวรุ่งวัย 14 ปี ที่ มอเตอร์แลนด์ อรากอน นอกจากนี้ยังมีการสูญเสียที่แฟน โมโตจีพี ติดตาของ มาร์โก ซิมอนเซลลี ที่ เซปัง ในปี 2011 ด้วย

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง 👇👇👇