สนาม เรดบูลล์ ริง สังเวียนความเร็วในประเทศออสเตรีย ประกาศแก้ไข “ดีไซน์” เลย์เอาท์ที่โค้ง 2 สำหรับการแข่งขัน โมโตจีพี ด้วยการใช้ “ชิเคน” ดักความเร็ว เพื่อความปลอดภัยโดยจะเริ่มใช้งานในปีหน้า

“เรดบูลล์ ริง” ถูกเรียกร้องโดยนักบิดโมโตจีพีมาตลอดช่วงปีที่ผ่านมา คือด้าน “ความปลอดภัย” หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุรุนแรง 3 ครั้งติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2020 ซึ่งล่าสุดคือสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จากเหตุการณ์ของ แดนี เปโดรซ่า และ ลอเรนโซ ซาวาดอรี ในช่วงขาออกโค้ง 3

ย้อนกลับไปในปีที่ผ่านมา เหตุการณ์รุนแรงที่สุดคือการชนของ โยฮันน์ ซาร์โก และ ฟรานโก มอร์บิเดลลี ที่ชนกันด้วยความเร็วกว่า 200 ไมล์ต่อชั่วโมง ก่อนจะทะลุชนขอบแทร็ก และกระดอนข้ามแทร็กผ่านศีรษะของ วาเลนติโน รอสซี่ และ มาเวริค บีญาเลส ซึ่งนับเป็นการชนที่ “สะพรึง” ที่สุดเหตุการณ์หนึ่งของประวัติศาสตร์ โมโตจีพี

เพื่อที่จะหยุดเหตุการณ์รุนแรงซ้ำรอยในจุดดังกล่าว ได้มีการวางแนวกั้นบริเวณด้านนอกโค้ง 3 เป็นการแก้ไขเบื้องต้น แต่การปรับปรุงแก้ไขด้านความปลอดภัยอย่าง “เป็นชิ้นเป็นอัน” ได้มีการหารือว่าจะเริ่มต้นทำงานในปี 2022

โดยในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (12 สิงหาคม 2021) ก่อนเข้าสู่การแข่งขัน ออสเตรียน กรังด์ปรีซ์ ในสุดสัปดาห์นี้ ฝ่ายบริหารสนาม เรดบูลล์ ริง ได้เปิดเผย “เลย์เอาท์” ที่ออกแบบใหม่เพื่อแก้ไขซึ่งจะใช้แข่งขน โมโตจีพี ในปีหน้า

เลย์เอาท์ที่จะได้รับการแก้ไขจากการเปิดเผยของ เรดบูลล์ ริง

จาก “เลย์เอาท์” ที่ออกแบบใหม่แทนที่จะพุ่งตรงจากโค้ง 1 ไปยังโค้ง 2 โดยตรง แต่ฝ่ายบริหารสนามจะเพิ่ม “ชิเคน” ดักความเร็วเข้าไปในบริเวณดังกล่าวในปี 2022 โดยนักบิดจะต้องเบรกเพื่อลดความเร็ว ก่อนเลี้ยวขวาและซ้ายต่อเนื่อง ก่อนจะเดินคันเร่งต่อไปที่โค้ง 3 เดิม (ซึ่งหลังแก้ไขจะเป็นโค้ง 4)

เลย์เอาท์ใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อเลี่ยงเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันกับ ซาร์โก และ มอร์บิเดลลี ในปี 2020 ซึ่งโครงสร้างดังกล่าวจะถูกแก้ไขนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้

ทั้งนี้ การแข่งขันฟอร์มูล่าวัน จะยังคงใช้รูปแบบแทร็กแบบเดิมต่อไป ซึ่งการแก้ไข “ดีไซน์” นี้จะเป็นการทำงานร่วมกันระกว่าง เอฟไอเอ และ เอฟไอเอ็ม