[MotoGP] “ก้อง-สมเกียรติ” เผยเบื้องลึกความยากปรับตัว “โมโตจีพี” ชี้การใช้ “ไรด์ ไฮ ดีไวซ์” คือสิ่งสำคัญ

0
380
Advertisement

“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดโมโตจีพีชาวไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ เผยรายละเอียดเชิงลึกความยากในการปรับตัวเข้ากับ โมโตจีพี คือเทคโนโลยีที่มากกว่า โมโตทู อย่างสุดขั้ว ชี้การใช้อุปกรณ์ตัวช่วยบนรถแข่งคือเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะ “ไรด์ ไฮ ดีไวซ์” พร้อมระบุทีมยังไม่เน้นเปลี่ยนเซ็ตติ้งเพื่อให้ “ทำความเข้าใจ” กับ RC213V เวอร์ชั่นใหม่ทั้ง 2 คนให้ดีที่สุด

“ก้อง” สมเกียติ จันทรา ยอดนักบิดโมโตจีพีชาวไทยคนแรกจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เริ่มต้นการทำงานอย่างหนักในการทดสอบ “โมโตจีพี เชคดาวน์ เทสต์” ระหว่างวันที่ 31 มกราคม-2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ซึ่งเจ้าตัวได้รับโอกาสลงสนามเทสต์เพียง 2 วัน และลงบิดรถแข่ง RC213V เวอร์ชั่นปี 2025 อย่างเต็มรูปแบบทั้งสิ้น 2 คัน ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของวิศวกรจาก ฮอนด้า เรซซิ่ง คอร์เปอเรชั่น (HRC) และ อิเดมิตสึ ฮอนด้า แอลซีอาร์ ต้นสังกัด

โดยตลอดการทดสอบทั้ง 2 วัน “ก้อง-สมเกียรติ” ลงเทสต์ไปทั้งสิ้น 123 รอบสนาม ของ เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และทำเวลาต่อรอบได้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง รั้งอันดับ 13 ของการเทสต์ครั้งนี้ ด้วยเวลาต่อรอบ 2 นาที 0.550 วินาที ตามผู้นำอย่าง ฟาบิโอ กวาร์ตาราโร ทั้งสิ้น 2.756 วินาที

“เชคดาวน์ ที่ผ่านมาถือว่าออกมาดี เรามีรถแข่งใหม่” สมเกียรติ เผยหลังลงเทสต์รถแข่ง RC213V เป็นเวลา 2 วันที่ เซปังฯ

“รวมถึงแนวทางในการทำงานของเรากับรถแข่ง ซึ่งมันดีขึ้นเรื่อยๆ”

“ความแตกต่างจาก โมโตทู เมื่อเทียบกับ โมโตจีพี เหรอครับ? หลักๆ เลยคือระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เยอะมาก โดยเฉพาะอุปกรณ์ต่างๆ ในการขับขี่ รวมถึง ไรด์ ไฮ ดีไวซ์”

“จากข้อมูล เราทำงานอย่างหนักเพื่อใช้ ไรด์ ไฮ ดีไวซ์ ในจุดที่ถูกต้อง มันดูดีขึ้น และใกล้เคียงจุดที่ดีแล้ว”

นอกจากนี้ “ก้อง-สมเกียรติ” ยังเผยถึงปัญหาในการเรียกใช้ “ไรด์ ไฮ ดีไวซ์” ของเขาว่า “ตอนนี้ผมเรียกใช้ระบบดังกล่าวช้ามากๆ หากเทียบกับ นาคากามิ ซึ่งเขาเปิดใช้เร็วกว่าผมมาก”

เมื่อถามถึงการเคลื่อนไหวร่างกายกับการขับขี่รถแข่ง โมโตจีพี รวมถึงการเรียนรู้การเข้าโค้ง “ก้อง-สมเกียรติ” กล่าวว่า “ตอนนี้เรามีรถแข่งใหม่ 2 คัน (เวอร์ชั่น 2025) ทีมของผมไม่ได้พยายามเปลี่ยนการเซ็ตติ้งมากนัก”

“พวกเขาต้องการให้ผมรู้จักรถแข่งให้ดี และพยายามทำความเข้าใจการทำงานของมัน เพื่อที่จะกลับมาที่พิต และบอกว่ามันเป็นอย่างไร”

“หลังจบการทดสอบที่ บาร์เซโลน่า ผมปวดเนื้อปวดตัวมากเมื่ออยู่บนรถแข่ง จากนั้นผมก็ฟิตร่างกายอย่างหนัก โดยเฉพาะที่หลังและร่างกาย”

“ที่ เซปัง มีโค้งความเร็วสูงหลายจุด สำหรับผมแล้วต้องเพิ่มพละกำลังของร่างกาย เพื่อให้มีพลังในการพลิกและกดตัวรถมากกว่าเดิม”

นอกจากนี้ “ก้อง-สมเกียรติ” ยังกล่าวถึงเทคโนโลยีต่างๆ ในตัวรถแข่งคันใหม่ใน โมโตจีพี ซึ่งเขาจะต้องปรับตัวอย่างมากจากการขี่ โมโตทู ว่า “รถแข่งของผมมีเบรก 2 จุด ทั้งด้านหลัง (ที่เท้า) และที่มือ”

“มันคือความแตกต่าง ทีมบอกว่าเราจะเก็บการเซ็ตติ้งนี้ไว้ เพราะในบางจุด (ของสนาม) เราต้องใช้เบรกที่เท้า”

“ในวันแรกของ เชคดาวน์ มันยากที่จะจำทุกๆ อย่าง หลังผ่าน 2 รอบ พวกเขาก็เปลี่ยนแม็ปปิ้ง แต่เราทำงานกันแบบวันต่อวัน เพื่อพยายามจำในสิ่งต่างๆ ให้ได้”

ขณะเดียวกัน นักบิดชาวไทยได้พูดคุยสั้นๆ กับ นาคากามิ นักบิดทดสอบของ ฮอนด้า รวมถึงเพื่อนรักอย่าง ไอ โอกูระ ที่ขยับขึ้นสู่ โมโตจีพี พร้อมกันในฤดูกาลนี้ โดยเจ้าตัวเผยว่า “ในวันสุดท้าย นาคากามิ เดินมาหาผม เขาพยายามที่จะไม่กดดันผม เขาบอกว่าขอให้สนุกกับการขี่รถแข่ง”

“ไอ ก็เป็นคนที่ขยับขึ้นจาก โมโตทู สู่ โมโตจีพี เช่นกัน เมื่อเรามีเวลาว่าง เราจะคุยกันถึง โมโตจีพี โดยเฉพาะเรื่องพละกำลังของรถและความเร็ว”

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง