“คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดดาวรุ่งชาวไทยวัย 20 ปี จากโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ของ เอ.พี.ฮอนด้า พร้อมเต็มร้อยสำหรับลุยศึก โมโตทู สนาม 16 รายการ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ ตั้งเป้าเดินหน้าล่าแต้มต่อไป เผยให้ความสำคัญไม่แพ้เรซในเมืองไทย เพราะเป็นโฮมเรซของทีม

ศึก โมโตจีพี 2019 เดินทางมาถึงสนามที่ 16 ของปีนี้ โดยจะดวลความเร็วระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคมนี้ ที่ ทวินริง โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น ในรายการ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ ซึ่งนักบิดหนึ่งเดียวของไทยอย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา จะลงแข่งขันในคลาส โมโตทู ร่วมกับ อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย เพื่อเดินหน้าล่าแต้มให้ได้อย่างต่อเนื่อง

สมเกียรติ เข้าร่วมแข่งขันในศึก โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ เป็นฤดูกาลแรก แต่สามารถสร้างผลงานได้อย่างโดดเด่น จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักบิดหน้าใหม่ ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งของ โมโตทู

โดยล่าสุด นักบิดไทยคว้าอันดับ 9 ในโฮมเรซ ที่ ประเทศไทย พร้อมทะยานขึ้นมารั้งอันดับ 20 บนตารางแชมเปีย้นชิพ เก็บไปแล้วทั้งสิ้น 20 คะแนน ซึ่งในสุดสัปดาห์นี้ สมเกียรติ มีคิวลงแข่งขันสนามที่ 16 ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย

“หลังจากมีสุดสัปดาห์ที่สวยงามในโฮมเรซที่ ประเทศไทย ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องคิดถึงการแข่งขันสนามหน้า (เจแปนีส กรังด์ปรีซ์) ซึ่งมีความสำคัญเช่นเดียวกับที่ บุรีรัมย์ เพราะเปรียบเหมือนโฮมเรซสำหรับทีมของเรา” สมเกียรติ เผยถึงความสำคัญของ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์

“ผมมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างหนัก เพื่อสานต่อการเรียนรู้ของตัวเองให้ดำเนินต่อไป เพราะความท้าทายคือการทำผลงานให้ดีที่สุด ภายใต้ความเท่าเทียมกันของเครื่องยนต์ใน โมโตทู ซึ่งผมต้องมีสมาธิอย่างมาก เพื่อเก็บแต้มให้ได้อีกครั้ง”

ทั้งนี้ สมเกียรติ มีคิวลงซ้อมครั้งแรกของ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์ ในช่วงเช้าของวันศุกร์ที่ 18 ต.ค.นี้ ก่อนจะซ้อมครั้งที่ 2 ในช่วงสายของวันเดียวกันตามเวลาประเทศไทย จากนั้นจะแข่งขันรอบควอลิฟายเพื่อจัดอันดับสตาร์ทในวันเสาร์ที่ 19 ต.ค.นี้ แล้ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศในวันอาทิตย์ที่ 20 ต.ค.นี้ เวลา 11.20 น.