“เดอะสปาตัน” ฮอร์เก ลอเรนโซ อดีตแชมป์โลก 3 สมัยชาวสแปนิช เผยสุดผิดหวังที่ ยามาฮ่า ยังคงจัดรถแข่ง M1 สเป็คเก่าให้ลงทดสอบที่ ปอร์ติเมา สังเวียนใหม่ โมโตจีพี ชี้ “เสียดาย” เพราะทำให้พลาดโอกาสในการพัฒนารถแข่งใหม่ในปีนี้

ลอเรนโซ รีไทร์จาก โมโตจีพี หลังสิ้นฤดูกาล 2019 ก่อนจะเซ็นสัญญากลับมาร่วงานกับ ยามาฮ่า ในฐานะนักบิดทดสอบ โดยเจ้าตัวได้ลงบิดรถแข่ง M1 สเป็คเดิมแค่เพียงครั้งเดียว เมื่อ 8 เดือนที่ผ่านมา กับการทดสอบที่ เซปัง

“ผมตื่นเต้นนะที่จะได้ลงบิด M1 อีกครั้ง เพราะมันยาวนานมากที่ไม่ได้ทำงานบนรถแข่ง แน่นอนว่ามันค่อนข้างยุ่งยากกับการปรับตัวเพื่อหาความเร็วกับรถแข่งคันนี้อีกครั้ง” ลอเรนโซ เผยที่ ปอร์ติเมา เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

“หากผมเข้าใจไม่ผิด เราจะลงทดสอบด้วยรถแข่งคันเดิมกับที่ เซปัง นั่นหมายความว่าเราจะยังไม่ได้ลงเทสต์ด้วยรถแข่งใหม่”

“ดังนั้น เราจะใช้การทดสอบครั้งนี้ เพื่อทำความเข้าใจกับ เกียร์บ็อกซ์ (อัตราทด) สำหรับนักบิดหลัก รวมถึงเรื่องยางด้วย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการทำความเข้าใจกับโหมด ไทม์ แอ็ทแท็ค และ จำลองการแข่งขันจริง”

“เราน่าจะมีการทำงานกับเซ็ตอัพนิดๆ หน่อยๆ เนื่องจากผมต้องลงเทสต์ด้วยรถปี 2019 การเซ็ตอัพต่างๆ จึงต่างจากรถแข่งในปี 2020 แต่เรื่องนั้นจะได้รับความสำคัญน้อยกว่าเรื่อง เกียร์บ็อกซ์ และ ยาง”

นอกจากนี้ ลอเรนโซ ยังกล่าวถึงกรณีที่เขาไม่ได้ลงทดสอบรถแข่ง M1 2020 ว่า “ผมได้คุยกับ มันสซิโม เมเรกัลลี ผู้อำนวยการทีม ยามาฮ่า หลายสัปดาห์ก่อน และเขาบอกว่าผมจะได้ลงเทสต์รถแข่งใหม่ แต่เมื่อผมเข้าไปในพิต ผมกลับเห็นพวกเขากำลังประกอบรถแข่งปี 2019 ซะอย่างงั้น”

“พวกเขาบอกผมว่าไม่มีเวลาเพียงพอที่จะเตรียมรถใหม่ให้”

“มันน่าเสียดายที่ไม่ได้ทดสอบรถแข่งสเป็คเดียวกับพวกเขา แต่ผมก็เดาว่าพวกเขาพยายามอย่างเต็มที่แล้วในการเตรียมรถใหม่ที่นี่ ซึ่งพวกเขาก็เตรียมมันไม่ทัน ดังนั้นเราจะทำงานให้เต็มที่กับสิ่งที่เรามี” ลอเรนโซ ทิ้งท้าย