ฟรานโก มอร์บิเดลลี นักบิดอิตาเลียนจาก ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ออกโรงส่งข้อความถึง “อาจารย์ใหญ่วีอาร์46” อย่าง วาเลนติโน รอสซี่ ว่าพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อเอาชนะ “ว่าที่ทีมเมท” ให้ได้ใน โมโตจีพี 2021 โดยตั้งเป้าทำผลงานให้ดีกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นการ “ขับเคี่ยวที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม”

แชมป์โลก 9 สมัย เซ็นสัญญาใหม่กับ ยามาฮ่า เพื่อบิดต่อใน โมโตจีพี 2021 ร่วมกับทีมแซ็ตเทิลไลต์สัญชาติมาเลเซียนอย่าง ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที

โดย “เดอะด็อกเตอร์” จะต้องร่วมงานกับ “ศิษย์เอก” ในสำนัก VR46 Academy อย่าง ฟรานโก มอร์บิเดลลี ในฐานะทีมเมท

มอร์บิเดลลี คือนักบิดจากอะคาเดมีของ รอสซี่ คนแรกที่คว้าแชมป์โลก โมโตทู เมื่อปี 2017 ก่อนจะถูกโปรโมทขึ้นสู่พรีเมียร์คลาสในปี 2018 กับ มาร์ค วีดีเอส ในรถแข่ง ฮอนด้า จากนั้นได้โยกมาบิดกับ ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ในปี 2019-2020 และสร้างผลงานอย่างโดดเด่นในปีนี้ ด้วยการคว้าชัยชนะครั้งแรกในชีวิตได้สำเร็จ

รอสซี่ และ มอร์บิเดลลี สนิทสนมกันอย่างมากนอกแทร็ก ทว่า มอร์บิเดลลี กลับเผยว่า “ผมคิดถึงเพียงการเอายางของผมอยู่นำหน้าเขา” เมื่อจะต้องร่วมงานกันในปีหน้า

“ผมมองไปถึงการต่อสู้กับเขา” มอร์บิเดลลี เผยเมื่อทราบข่าวการเซ็นสัญญาของ รอสซี่ กับ ปิโตรนาส ยามาฮ่า เอสอาร์ที ในปีที่ผ่านมา

“และนี่คือสิ่งที่ผมเฝ้าฝันมาตลอด รวมถึงตอนนี้ด้วย! ผมหมายความว่า เมื่อผมลงแข่งขันบนแทร็กกับ วาเล่ ความรู้สึกมันจะแตกต่างออกไป”

“มันยอดเยี่ยมเสมอ ผมจะทำมันด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า และมันคืออีกสิ่งหนึ่งที่เจ๋งสุดๆ หากทำได้”

“มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเมื่อต้องต่อสู้กับใครบนแทร็ก โดยเฉพาะในโมโตจีพี นั่นคือการยิ้มไปด้วยและขับเคี่ยวกันไปด้วย แต่ผมกลับมองเห็นยตัวเองมีรอยยิ้มเมื่อได้สู้กับคู่แข่งที่ชื่อ วาเล่” มอร์บิเดลลี กล่าว

ขณะเดียวกัน มอร์บิเดลลี ยังกล่าวถึงรถแข่งในปีนี้ของเขาว่า “ดูเหมือนลาดลายรถแข่ง M1 ในปี 2021 ของผมจะคล้ายๆ กับ 2 ปีที่ผ่านมา แต่มันก็ยังคงมีความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย”

“มันดูเหมือนเดิมนะแต่ก็มีความแตกต่าง ดังนั้นผมค่อนข้างชอบมันเลยละ” มอร์บิเดลลี กล่าว

“สิ่งที่แตกต่างอย่างชัดเจนในปีนี้คือทีมเมทของผม ผมเชื่อและหวังว่ามันจะเป็นฤดูกาลที่ดีสำหรับ วาเล่ และตัวผมเอง”

“เราต่างก็มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นมานานหลายปี และเราต่างก็เรียนรู้ซึ่งกันและกัน”

“เป้าหมายส่วนตัวของผมในปี 2021 คือทำให้ดีกว่าปีที่แล้ว ปรับปรุงตัวเองในฐานะคนๆ หนึ่ง ในฐานะนักบิด และนักกีฬา”

“ผมรู้ว่ามันยากและยากสุดๆ เพราะปีที่ผ่านมาเรามีความเร็วสูงมาก และผมก็มีผลงานที่ดีมากในหลายๆ เรซ แต่ยังไงก็ตาม เราจะต้องพยายามแก้ไขสิ่งต่างๆ จากปี 2020 ดังนั้น นี่จึงเป็นความตั้งใจหลักของผม คือการทำให้ดีกว่าปีที่แล้ว”

ปีที่แล้ว มอร์บิเดลลี คว้าชัยชนะมาได้ทั้งสิ้น 3 สนาม และเป็นนักบิดยามาฮ่า ที่สร้างผลงานดีที่สุด พร้อมกับคว้าตำแหน่งรองแชมป์โลก โมโตจีพี มาครอง โดยมีแต้มตามหลัง โจอัน เมียร์ เพียง 13 คะแนนเท่านั้น

ส่วน รอสซี่ เก็บมาได้เพียงโพเดี้ยมเดียวในปีที่ผ่านมา และจะออกสตาร์ทฤดูกาลที่ 26 ในการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รวมถึงเป็นฤดูกาลที่ 16 ที่บิดรถแข่งยามาฮ่า

โดยในปีนี้ รอสซี่ ย้ายมาพร้อมกับทีมงานของเขา 3 คน ได้แก่ หัวหน้าช่างอย่าง ดาวิด มุนยอช, มัตเตโอ ฟลามันญี วิศวกรดาต้า และโค้ชส่วนตัวอย่าง อิดาลลิโอ กาวิร่า

ยามาฮ่า ยังคงตัดสินใจที่จะให้ มอร์บิเดลลี ใช้รถแข่ง ‘A-Spec’ ที่เข้าใช้ลงแข่งขันในปี 2020 ซึ่งเป็น M1 ตัวเต็มจากปี 2019 ที่มีประสิทธิภาพเต็มเปี่ยม

แม้ ลิน ยาร์วิส ทีมบอสของ ยามาฮ่า โมโตจีพี จะอธิบายว่าจากการตัดสินใจร่วมกันของ ยามาฮ่า และ ทีม ทำให้ไม่สามารถป้อนรถแข่งตัวล่าสุดให้กับ มอร์บิเดลลี ได้ แต่ก็ยอมรับว่านักบิดอิตาเลียนสมควรที่จะได้รับโอกาสดังกล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2021 ยังเหลือเพียง 2 ทีมที่ไม่ได้เปิดตัว ได้แก่ อพริเลีย ที่เตรียมเผยโฉม RS-GP ในวันที่ 4 มีนาคม และ ทีม ซูซูกิ เอ็คสตาร์ ในวันที่ 6 มีนาคมนี้