มิเกล โอลิเวียร่า นักบิดโปรตุกีสจาก เคทีเอ็ม เทคทรี ยกเครดิตให้กับ แดนี เปโดรซ่า นักบิดทดสอบร่างเล็กชาวสแปนิช ในการทุ่มเททำงานอย่างหนัก เพื่อพัฒนารถแข่ง KTM RC16 จนก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้า โมโตจีพี และคว้าแชมป์แล้ว 2 สนาม

คลิกเพื่อฟังข่าวหากไม่มีเวลาอ่าน

แบรด บินเดอร์ และ มิเกล โอลิเวียร่า อนาคตคู่หูทีมโรงงาน เคทีเอ็ม ผงาดคว้าแชมป์ โมโตจีพี ครั้งแรกในชีวิตของพวกเขา และเป็น 2 ชัยชนะแรกของ เคทีเอ็ม ในรอบ 4 ปีกับการคัมแบ็กสู่ โมโตจีพี ซึ่งแน่นอนว่ามีความเชื่อมโยงกับการทำงานด้านการพัฒนารถแข่งร่วมกับ เปโดรซ่า ซึ่งมีผลอย่างมากต่อผลงานของพวกเขาในฤดูกาลนี้

หลังจากตัดสินใจรีไทร์จาก โมโตจีพี ด้วยการบิดยาวนานกว่า 13 ปี เปโดรซ่า ได้ออกจากอ้อมอกของ เรปโซล ฮอนด้า ก่อนเซ็นสัญญากับ เคทีเอ็ม ในฐานะนักบิดทดสอบในปี 2019 และผลงานการพัฒนาของเริ่มสัมฤทธิ์ผลชัดเจนอย่างมากในฤดูกาลนี้

“มันดูเหมือนว่า เคทีเอ็ม พัฒนาอย่างก้าวกระโดด หลังจากที่ แดนี ก้าวเข้าสู่ทีม” คาล ครัทช์โลว นักบิดอังกฤษที่เคยร่วมงานกับ เปโดรซ่า ในค่าย ฮอนด้า เผย

หลังจากไม่สามารถจบเรซในอันดับท็อป 5 ได้เลยใน 2 สนามแรก ทว่า เคทีเอ็ม ก็ทะยานขึ้นมาคว้าชัยชนะครั้งแรกของพวกเขาที่ เบอร์โน จากผลงานของ แบรด บินเดอร์ และแชมป์ที่ 2 ในศึก สตีเรียน กรังด์ปรีซ์ ที่ เรดบูลล์ ริง จากผลงานของ มิเกล โอลิเวียร่า จาก เคทีเอ็ม เทคทรี

แดนี เปโดรซ่า

โดย โอลิเวียร่า นักบิดโปรตุกีส ยกเครดิตในการพัฒนารถแข่งให้มีศักยภาพเทียบกับแถวหน้า ให้กับ เปโดรซ่า ซึ่งมีส่วนช่วยให้ เคทีเอ็ม พัฒนาขึ้นอย่างผิดหูผิดตา

“รถแข่งคันนี้พัฒนาขึ้นแบบก้าวกระโดดหากเทียบกับปีที่ผ่านมา” โอลิเวียร่า เผย

“แดนี ทำงานอย่างหนัก เขามอบสิ่งที่ดีสุดๆ ลงไปกับรถแข่ง เพื่อให้มันขี่ง่ายกว่าเดิม และผลลัพธ์ก็ออกมาแล้วในตอนนี้”

“เรารู้สึกได้เลยว่ารถแข่งคันนี้ควบคุมได้ง่ายขึ้นมาก เราสามารถขี่ได้อย่างสมูธมากขึ้น ซึ่งนี่คือสิ่งเล็กๆ ในสไตล์ของ แดนี ดังนั้น เมื่อจบวันของเรซเดย์ ผลงานที่ยอดเยี่ยมคือสิ่งที่เขาทุกเท่ทำงานอย่างหนัก”

สำหรับ ศึก โมโตจีพี 2020 สนามถัดไปจะมีขึ้นในวันที่ 11-13 กันยายนนี้ ที่สาธารณรัฐ ซาน มาริโน ในสนามที่ชื่อว่า มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเซลลี ในรายการ ซาน มาริโน กรังด์ปรีซ์