“ก้อง” สมเกียรติ จันทรา ยอดนักบิดไทยจากโครงการ “ฮอนด้า เรซ ทู เดอะ ดรีม” เปิดเผยว่าต้องเจอสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างมากในสภาพอากาศที่ ออสติน เพราะลมแรงขึ้นในการแข่งขัน ชี้ได้เรียนรู้เพื่อยกระดับในอนาคต

การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2023 สนาม 3 รายการ อเมริกาส์ กรังด์ปรีซ์ ดวลความเร็วรอบชิงชนะเลิศเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ที่ สนาม เซอร์กิต ออฟ ดิ อเมริกาส์ เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา

เกมในรุ่น โมโตทู ดวลกันทั้งสิ้น 16 รอบสนาม ซึ่งนักบิดขวัญใจชาวไทยอย่าง “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา เจ้าของหมายเลข 35 จากสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ได้ออกสตาร์ตจากกริดที่ 15

โดย สมเกียรติ เริ่มต้นเกมได้อย่างยอดเยี่ยมขยับขึ้นมารั้งอันดับ 13 ได้ตั้งแต่รอบแรก จากนั้นไล่บดชิงตำแหน่งกับนักบิดแถวหน้าของโลกอย่างสุดมันส์ ก่อนมาไล่แซง อัลเบิร์ต อารีนาส อดีตแชมป์โลกโมโตทรีได้ในโค้งสุดท้าย บิดเข้าป้ายในอันดับ 11 ด้วยเวลา 34 นาที 56.486 วินาที ตามหลัง เปโดร อคอสต้า ผู้ชนะเพียง 13.607 วินาทีเท่านั้น

ส่วนชัยชนะเรซนี้ตกเป็นของ เปโดร อคอสต้า นักบิดสแปนิชจาก เรดบูล เคทีเอ็ม อาโย ที่บดเอาชนะ โทนี อาร์โบลิโน คู่แข่งชาวอิจาเลียนจาก มาร์ค วีดีเอส อย่างสุดมันส์ไปจนถึงโค้งสุดท้าย

จากผลงานยอดเยี่ยมในสนามนี้ ส่งผลให้นักบิดไทยเก็บเพิ่ม 5 คะแนนจาก ออสติน พร้อมกับขยับขึ้นมารั้งอันดับ 8 บนตารางแชมเปี้ยนชิพของ โมโตทู 2023 เก็บไปทั้งสิ้น 20 คะแนน ผ่าน 3 สนามแรกของฤดูกาล

สมเกียรติ เปิดเผยว่า “ก่อนแข่งเราเห็นว่าสภาพอากาศมันแตกต่างจากวันก่อนหน้านี้ นั่นเป็นเพราะลมที่แรงขึ้น เราจึงเปลี่ยนเซ็ตอัพหลายอย่างในรถแข่ง”

“และความรู้สึกแรกของผมในช่วงเริ่มต้นก็ดี แต่ลมก็แรงขึ้นเรื่อยๆ และการจัดการกับสถานการณ์แบบนี้ก็เป็นเรื่องยากและท้าทายมาก”

“ผมต้องเรียนรู้ที่จะมีความเร็วในเงื่อนไขแบบนี้” นักบิดไทยเจ้าของหมายเลข 35 เผย

ทั้งนี้ ศึก โมโตจีพี 2023 สนาม 4 จะโยกกลับไปแข่งขันในทวีปยุโรป ที่ เซอร์กิโต เด เฆเรซ ประเทศสเปน ในรายการ สแปนิช กรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 28-30 เมษายนนี้

วีดีโอที่เกี่ยวข้อง